Breaking News

นวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ไทยก้าวไกล STeP ผนึกกำลัง วช. ยกระดับศักยภาพนักวิจัยสู่ตลาดโลก

  อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) จับมือ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เดินหน้าพัฒนาศักยภาพนักวิจัยด้านเครื่องมือแพทย์ มุ่งลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมยกระดับมาตรฐานการผลิตเครื่องมือแพทย์ในประเทศ ภายใต้ “โครงการการพัฒนากลไกการใช้ประโยชน์งานวิจัยด้านการแพทย์ผ่านการสร้างแผนงานด้านเทคโนโลยีและบ่มเพาะธุรกิจนวัตกรรม” เพื่อมุ่งสนับสนุนให้นักวิจัยได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการของตลาด  อีกทั้งผลักดันให้เกิดการนำเทคโนโลยีไปใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะในด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง อันจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub)

ด้าน ผศ.ดร.ทินกร ปงธิยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ฯ และในฐานะหัวหน้าโครงการ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นการพัฒนาใน 2 มิติหลัก คือ การสร้างแผนที่นำทางเทคโนโลยี (Technology Roadmap) ที่เปรียบเสมือนแผนที่นำทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มุ่งเน้นการให้ความรู้และคำปรึกษาเกี่ยวกับมาตรฐานการขึ้นทะเบียนเครื่องมือแพทย์แก่นักวิจัย และการบ่มเพาะธุรกิจ (Business Incubation) เพื่อพัฒนาศักยภาพนักวิจัยสู่การเป็นผู้ประกอบการด้านเครื่องมือแพทย์ ตั้งแต่การพัฒนาความคิดไปจนถึงการสร้างเครือข่ายธุรกิจ ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุด คือการผลักดันให้เกิดการจัดตั้งบริษัท Medical Device Tech Spin-off จากงานวิจัยและสามารถรองรับการเติบโตได้ทุกช่วงธุรกิจ โดยตั้งเป้าพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์นำร่องใน 7 เทคโนโลยี พร้อมสร้างทีมผู้บริหารที่มีศักยภาพทั้งในตำแหน่ง CEO และ CTO 

“ปัจจุบัน ทีมอาจารย์นักวิจัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ผู้พัฒนาเทคโนโลยี 3 ใน 7 ผลงาน” อันได้แก่ เครื่องวัดแรงดูดกลืนสำหรับทารก, ชุดอุปกรณ์ถ่ายภาพในช่องปากสำหรับวินิจฉัยรอยโรคก่อนมะเร็งและมะเร็ง ช่องปาก และชุดน้ำยาสำหรับตรวจวินิจฉัยชนิดของพาหะอัลฟา-ธาลัสซีเมีย ผ่านการประเมินความพร้อม ของเทคโนโลยี และการวางแผนพัฒนาภายใต้กฎหมายเครื่องมือแพทย์ ตลอดจนการประเมินการลงทุนเพื่อต่อยอดทางธุรกิจ เพื่อให้เทคโนโลยีที่คิดค้นสามารถตอบโจทย์กับความต้องการในยุคปัจจุบัน และยังสามารถพัฒนา ต่อยอดอย่างถูกทาง ซึ่งนับเป็นผลสำเร็จที่มุ่งหวังของโครงการในครั้งนี้ 

โดยโครงการดังกล่าว ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการลดการพึ่งพาการนำเข้าเครื่องมือแพทย์จากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 95 ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ภายในประเทศจึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะช่วยให้ภาครัฐสามารถจัดสรรสวัสดิการสุขภาพแก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึงและยั่งยืนอีกด้วย ทั้งนี้ อาจารย์ นักวิจัย ที่สนใจอยากดันงานวิจัย นวัตกรรม ของตนเองทั้งด้านการแพทย์ หรือด้านอื่นๆ ไปสู่เชิงพาณิชย์ สามารถเดินทางเข้ามาสอบถาม และบอกโจทย์ความต้องการของท่าน โดยตรงได้ที่ อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ ภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่) หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ : 0 5394 8678

No comments