CAT ร่วมมือ MEA ต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม สู่การพัฒนาธุรกิจดิจิทัลและ 5G
MEA และ CAT ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจ
โดยจะร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน
เพื่อนำไปให้ผู้ประกอบการใช้ประกอบกิจการโทรคมนาคม
และประกอบกิจการอื่นในพื้นที่เขตความรับผิดชอบของ MEA ซึ่งนับเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจและก่อให้เกิดผลดีต่อธุรกิจโทรคมนาคมของประเทศ
ช่วยลดการลงทุนซ้ำซ้อน
และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาคุณภาพบริการได้เร็วขึ้น
โดยไม่ต้องเสียเวลาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
อีกทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้บริการได้ในอนาคต
นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า
ในฐานะองค์กรที่มีศักยภาพในด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่เมืองมหานครของประเทศไทย
และมีความพร้อมตอบสนองนโยบายภาครัฐ
ด้วยการมุ่งมั่นพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะให้สามารถรองรับต่อการเติบโตของเมืองในอนาคต
ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด
โดย MEA พร้อมสนับสนุนข้อมูลด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้า
ข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) มาตรฐานการติดตั้งอุปกรณ์บนเสาไฟฟ้า
และระบบที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อใช้ประกอบการจัดทำผลการศึกษาความเป็นไปได้
ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมระบบการให้บริการแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งภาคธุรกิจ
และประชาชนในอนาคต
พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์
กรรมการผู้จัดการใหญ่ CAT เปิดเผยว่า
“ปัจจุบัน CAT มีเสาโทรคมนาคมกว่า
20,000 ต้นที่พร้อมสำหรับให้ผู้ประกอบการได้ใช้งาน
ความร่วมมือในครั้งนี้จึงช่วยลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนและยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนในการจัดสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเพื่อพัฒนาต่อยอดไปสู่เทคโนโลยีดิจิทัลและ
5G ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากความร่วมมือกับ MEA
แล้ว CAT ยังจะร่วมกับพันธมิตรทั้งภายในประเทศและต่างประเทศลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในส่วนที่ต้องจัดหาเพิ่มเติมเพื่อลดภาระการลงทุน
และสร้างรายได้เพิ่มจากการให้ผู้ให้บริการรายอื่นเช่าใช้โครงสร้างพื้นฐานทั้งในส่วนของเสาโทรคมนาคมและไฟเบอร์
(Passive Infrastructure Sharing) รวมถึงร่วมกับพันธมิตรธุรกิจหรือผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายอื่น
เพื่อให้การลงทุนจัดให้มีบริการ 4G/5G เกิดประสิทธิภาพและประหยัดสูงสุด”
No comments