Breaking News

ฟูจิตสึ ประเทศไทย เปิดตัวศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัย – SOCaaSผนึกพันธมิตรเทคโนโลยี LogRhythm ลุยตลาดลูกค้าระดับองค์กรเต็มรูปแบบ

 

ฟูจิตสึ”  ประกาศเปิดตัวศูนย์ SOCaaS  ตอบรับความต้องการลูกค้าระดับองค์กร โชว์ศักยภาพความพร้อมที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีระดับสากลร่วมพันธมิตรหลักอย่าง  LogRhythm   ทั้งกระบวนการคิด วิเคราะห์ร่วมผู้เชี่ยวชาญด้าน Cyber security ทำให้สืบค้น ตรวจจับถึงภัยคุกคาม ได้ทุกความเสี่ยงอย่างแม่นยำ ครบวงจร โดยให้ความสำคัญกับ People,  Process, Technology  เพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยอันแข็งแกร่ง

นายโทชิโร มิอุระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึง การเปิดตัวศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัย – Security Operation Center As a Service  หรือ SOCaaSว่า  เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การบริการด้านเทคโนโลยีในปี 2563 ในกลุ่มบริการด้านดิจิทัล   DX- Modernize เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น และสนองตอบความต้องการของลูกค้าระดับองค์กรโดยจัดเตรียมทีมงานที่เชี่ยวชาญด้านระบบความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ เพื่อให้บริการ เฝ้าระวัง แจ้งเตือนและให้คำแนะนำ ระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับองค์กรของลูกค้าของทางบริษัทฯ โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจัดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยในมูลค่าที่สูง สามารถเช่าใช้บริการส่วนนี้จากผู้เชี่ยวชาญและทีมงานที่พร้อมให้บริการของฟูจิตสึได้ ช่วยลดงบประมาณด้านไอทีให้กับองค์กรได้อย่างรวดเร็ว สามารถรักษาระบบความปลอดภัยด้านไซเบอร์ให้กับองค์กรได้อย่างดี  

“Fujitsu เล็งเห็นถึงความต้องการของลูกค้าที่ต้องการปกป้องความปลอดภัยด้านไซเบอร์ขององค์กร แต่อาจยังไม่มีความพร้อมที่จะดำเนินการด้วยตนเอง   Fujitsu SOCaaS  สามารถให้ความมั่นใจได้ด้วยองค์ประกอบสำคัญที่สามารถตอบโจทก์ด้านระบบความปลอดภัยไซเบอร์ให้กับลูกค้าองค์กร 

ด้วยความพร้อมของ 3 องค์ประกอบหลักคือ ทีมงานที่เชี่ยวชาญ (People)  มีระบบการจัดการที่ทันสมัยและให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง(Process) และได้ร่วมมือกับเทคโนโลยีพาร์ทเนอร์ LogRhythm (Technology) ที่แข็งแกร่งและได้รับการยอมรับระดับสากลมาใช้ในการบริหารศูนย์ฯ SOC เรามีทักษะความรู้ ความสามารถในการรับมืออย่างดีมีประสบการณ์ เท่าทันภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ เพราะจากการสำรวจไซเบอร์เซเคียวริตี เวนเจอร์ส บริษัทวิจัยและจัดทำรายงานด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ของสหรัฐอเมริกา คาดการณ์ว่า ผลกระทบจากการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ หรือ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก อาจสูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่า 620,000 ล้านบาท ภายในปี 2564 ตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 57 เท่า ของมูลค่าความเสียหายทั่วโลก 


ด้วยความพร้อมของ 3 องค์ประกอบหลักคือ ทีมงานที่เชี่ยวชาญ (People)  มีระบบการจัดการที่ทันสมัยและให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง(Process) และได้ร่วมมือกับเทคโนโลยีพาร์ทเนอร์ LogRhythm (Technology) ที่แข็งแกร่งและได้รับการยอมรับระดับสากลมาใช้ในการบริหารศูนย์ฯ SOC เรามีทักษะความรู้ ความสามารถในการรับมืออย่างดีมีประสบการณ์ เท่าทันภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ เพราะจากการสำรวจไซเบอร์เซเคียวริตี เวนเจอร์ส บริษัทวิจัยและจัดทำรายงานด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ของสหรัฐอเมริกา คาดการณ์ว่า ผลกระทบจากการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ หรือ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก อาจสูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่า 620,000 ล้านบาท ภายในปี 2564 ตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 57 เท่า ของมูลค่าความเสียหายทั่วโลก 

ดังนั้นปล่อยให้องค์กรไม่พร้อมที่จะรับมือต่อภัยคุกคามทั้งที่มีอยู่และที่เกิดขึ้นใหม่ในแต่ละวันนั้นนับเป็นความเสี่ยงต่อการเสียชื่อเสียงและทรัพย์สินอันมีค่าขององค์กรอย่างยิ่ง และ Fujitsu SOCaaS พร้อมที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องให้กับธุรกิจองค์กรที่ต้องการดูแลรักษาระบบ IT ของตนเองให้มั่นคงปลอดภัยยิ่งขึ้น” นายมิอุระ กล่าว 

นายสุปรีดี วัฒนการุณ  ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจบริการ Managed Infrastructure Service, System Integration  บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าศูนย์ Fujitsu’s Security Operation Center As A Service (SOCaaS) เป็นการให้บริการ Security Intelligence Platform ที่ทำให้การวิเคราะห์ถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่างๆ นั้นชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วยการรวบรวมความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ต่างๆ และการรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์ทั้งในรูปแบบอัตโนมัติที่ทันสมัยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Cybersecurity ซึ่งทำให้สามารถค้นหาและตรวจจับถึงภัยคุกคามและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับองค์กรได้อย่างแม่นยำ  นอกจากนี้ข้อมูลและพฤติกรรมต่างๆที่ถูกรวบรวมมายัง SOCaaS ยังได้ถูกนำมาประเมินถึงความเสี่ยงและแจ้งเตือนถึงความเสี่ยงที่มีความรุนแรงและมีผลกระทบต่อระบบของลูกค้า รวมถึงคำแนะนำ และแนวทางป้องกัน เพื่อช่วยลดการละเมิดการเข้าถึงข้อมูลหรือทรัพยากรต่างๆ ขององค์กรโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือก่อนที่เหตุการณ์ที่เกิดจากภัยคุกคามทางไซเบอร์จะเกิดขึ้น ซึ่งจะสามารถถูกตรวจพบได้ก่อนด้วย The Indicator Of Compromise และ Threat Intelligence Services (TIS) Feeds จึงทำให้สามารถตอบสนองและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับองค์กรได้อย่างรวดเร็ว SOCaaS จะทำหน้าที่ประเมิน ตรวจสอบและแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับองค์กรให้อยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง อีกทั้งยังเป็นการเตรียมการรับมือล่วงหน้าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์บุกรุกขึ้น และเมื่อเกิดเหตุการณ์บุกรุกเกิดขึ้น ทีมงาน CSIRT จะเข้าดำเนินการตรวจสอบ ช่วยเหลือ และให้คำแนะนำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดิมเกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต 

สําหรับลูกค้าที่กําลังมองหามาตรฐานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น กับหลากหลายการจัดการบริการรักษาความปลอดภัย ด้วยบริการการป้องกันภัยคุกคามขั้นสูง / ข่าวกรองภัยคุกคามไซเบอร์ /การตรวจจับและการตอบสนองของปลายทาง (EDR) / การวิเคราะห์ที่ปรับปรุงแล้วและการวิเคราะห์ภัยคุกคาม /ข้อมูลความปลอดภัยและการจัดการเหตุการณ์ (SIEM และ SIEMaaS) / การตอบสนองภัยคุกคาม ฟูจิตสีมั่นใจว่าด้วยจุดแข็งและพันธมิตรที่แข็งแกร่งจะทำให้ศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัย (SOCaaS) สามารถตรวจจับ แจ้งเตือน และป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ทุกลูกค้า องค์กรสามารถเดินหน้าทำงาน ทำธุรกิจ ได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวลเรื่องภัยไซเบอร์ 

ทางด้าน นางสาวโจอานน์ หว่อง รองประธานฝ่ายขายตลาดต่างประเทศของ LogRhythmกล่าวว่า “จากผลการศึกษา CISO Benchmark พบว่า หลายๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทย ต่างเผชิญกับอุปสรรคสำคัญที่สุด 3 ข้อ ในการที่จะปรับใช้เทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยที่ก้าวล้ำ ประกอบด้วย การขาดความรู้ที่เพียงพอเกี่ยวกับเทคโนโลยีและกระบวนการ การขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และปัญหาเรื่องการใช้งานร่วมกับระบบรุ่นเก่า  อย่างไรก็ดี องค์กรธุรกิจหลายแห่งพยายามที่จะเอาชนะอุปสรรคดังกล่าว ด้วยการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการที่เป็นผู้นำตลาด เพื่อรันและจัดการระบบรักษาความปลอดภัย บนแพลตฟอร์มของ LogRhythm  เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับบริษัทชั้นนำอย่างฟูจิตสึ ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในเรื่องของการนำเสนอโซลูชั่นไซเบอร์ซีเคียวริตี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรต่างๆ ในปัจจุบัน”

ทั้งนี้บริษัท ฟูจิตสึ  (ประเทศไทย) จำกัด หรือ FTH  เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์โซลูชั่นและการให้บริการทางด้านเทคโนโลยีอย่างครบถ้วน รวมไปถึง ดิจิทัลโซลูชั่น บริการด้านความปลอดภัย คลาวด์โซลูชั่น ซอฟต์แวร์อีอาร์พี การบริหารจัดการโครงสร้างทางด้านไอที การจัดวางระบบ ที่ปรึกษาทางด้านไอที คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์และสแกนเนอร์  บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งในประเทศไทยเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2533  และเติบโตอย่างต่อเนื่อง FTH มีบรรษัทภิบาลในการบริหารจัดการที่แข็งแกร่ง อิสระในการสร้างความสัมพันธ์และสนับสนุนความเข้าใจร่วมกันกับลูกค้าในประเทศ รวมถึงให้การตอบสนองและความรับผิดชอบในพื้นที่การทำธุรกิจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fujitsu.com/th

ทางด้าน LogRhythm เสริมสร้างศักยภาพให้แก่ลูกค้ากว่า 4,000 รายทั่วโลกสำหรับการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ  แพลตฟอร์ม NextGen SIEM ของ LogRhythm มีรางวัลเป็นเครื่องรับประกัน รองรับการวิเคราะห์ข้อมูลความปลอดภัยอย่างครบวงจร รวมไปถึงการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้และองค์กร การตรวจจับเครือข่ายและการตอบสนอง และการผสานรวมระบบรักษาความปลอดภัย ระบบงานอัตโนมัติ และการตอบสนอง โดยทั้งหมดนี้รวมอยู่ในแพลตฟอร์มแบบครบวงจรหนึ่งเดียว ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจจับ ตอบสนอง และกำจัดภัยคุกคามได้อย่างฉับไว  แพลตฟอร์มของ LogRhythm ได้รับการพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่บุคลากรฝ่ายรักษาความปลอดภัยในองค์กรชั้นนำระดับโลกอย่างเช่น NASA และ XcelEnergy โดยเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจสอบระบบไซเบอร์ซีเคียวริตี้ได้อย่างครอบคุลม ทำให้องค์กรลดความเสี่ยงในทุกๆ วัน  LogRhythm เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่ได้รับรางวัล Customer Choice for SIEM จาก Gartner Peer Insights เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน  ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.logrhythm.com


สำหรับ Exclusive Networks เป็นผู้เชี่ยวชาญ VAD ระดับโลกทางด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และโซลูชันระบบคลาวด์ ซึ่งเป็น 2 เทคโนโลยีหลักที่พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันในยุคดิจิทัล ศักยภาพอันเด่นชัดนี้ได้รับการสนับสนุนโดยเจ้าของผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศ ทักษะอันหาที่เปรียบไม่ได้ และการเป็นเจ้าของบริการอันแสนประทับใจตั้งแต่การสนับสนุนเชิงเทคนิกก่อนและหลังการขาย ไปจนถึงการใช้เช่า การอบรม การให้บริการอย่างมืออาชีพ และการบริหารจัดการโปรเจ็กต์ระดับโลก ด้วยการมีสำนักงานกระจายอยู่ใน 5 ภูมิภาค กว่า 100 ประเทศทั่วโลก Exclusive Networks มีโมเดล “การขายแบบภายในท้องถิ่น ในสเกลระดับโลก” อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งช่วยให้เหล่าพันธมิตรสามารถประสบความสำเร็จในการก้าวสู่ระดับโลกได้ ในขณะที่สามารถส่งมอบผู้จัดจำหน่ายที่มีความเชี่ยวชาญและมุ่งมั่นในการให้บริการภายท้องถิ่นซึ่งพร้อมเพิ่มมูลค่าการให้บริการได้ในเวลาเดียวกัน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.exclusive-networks.com

No comments