สสว. จับมือ ช้อปปี้ ลงนาม MOU ผลักดันสิทธิประโยชน์ เสริมทัพ SME ไทย รุกเดินหน้าตลาดออนไลน์ครบวงจร
วันนี้ (31 ตุลาคม 2556) นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ ช้อปปี้ (ประเทศไทย) ณ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อร่วมมือกันเดินหน้าพัฒนาศักยภาพและขยายช่องทางตลาดออนไลน์ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อย่างต่อเนื่องสู่ตลาดสากล
นายวีระพงศ์ เปิดเผยว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา สสว. ได้เร่งดำเนินการเพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการขยายโอกาสทางการตลาด เพื่อช่วยพลิกฟื้นธุรกิจของผู้ประกอบการให้สามารถเดินหน้าต่อได้ รวมถึงสร้างเอสเอ็มอีรายใหม่ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก และสนับสนุนการพัฒนาสินค้าเอสเอ็มอี ให้ได้รับความเชื่อมั่นและยอมรับจากกลุ่มผู้บริโภค โดยเฉพาะตลาดออนไลน์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง โดย สสว. เดินหน้าผลักดันสิทธิประโยชน์สำหรับช่องทางตลาดออนไลน์ และได้ร่วมกับช้อปปี้ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศ
ผอ. สสว. กล่าวต่อว่า การลงนามความร่วมมือกับช้อปปี้ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักในการร่วมมือกันดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นการส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของ สสว. และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมในโครงการต่าง ๆ ของ สสว. เพื่อเป็นการสนับสนุน เสริมสร้างขีดความสามารถ ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เอสเอ็มอี พร้อมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำในการดำเนินธุรกิจในรูปแบบต่างๆ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมช่องทางการจำหน่ายสินค้า รวมถึงการจัดหาสิทธิประโยชน์สนับสนุนการดำเนินธุรกิจแก่เอสอ็มอี และวิสาหกิจรายย่อย และมีการประชาสัมพันธ์ และเพิ่มยอดขาย ทำให้ธุรกิจของผู้ประกอบการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
“นอกจากการสนับสนุนศักยภาพและการขยายตลาดในช่องทางออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบแล้ว สสว. ยังได้วางแผนต่อยอดความช่วยเหลือ โดยกำลังนำเสนอมาตรการ “ช็อป SME มีคืน” ต่อรัฐบาลภายในปีนี้ แนวคิดเบื้องต้นจะกำหนดให้ผู้ที่ซื้อสินค้า “SME ชัวร์” วงเงินไม่เกิน 10,000 บาท สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดและเตรียมประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะนำเสนอบอร์ดบริหาร สสว. และบอร์ดส่งเสริมสสว. ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป” นายวีระพงศ์กล่าว
No comments