Breaking News

ดีทีพี โกลบอล รีทส์ แมเนจเมนท์ รุกเปิดกองทรัสต์ DTPHREIT ลงทุนในโรงแรมดังของ MQDC มูลค่ากองร่วม 4 พันล้าน เผย MODC พร้อมรับซื้อคืนราคาเดิมหลังปิดกอง มั่นใจศักยภาพแข็งแกร่ง

 

บริษัทดีทีพี โกลบอล รีทส์ แมเนจเมนท์ จำกัด (DTPRM) บริษัทบริหารกองทรัสต์ ในเครือบริษัท ดีทีจีโอ พรอสเพอรัส จำกัด (DTP) ประกาศจัดตั้ง “กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อธุรกิจโรงแรมและสิทธิการเช่า ดีทีพี ฮอสพิทอลลิตี้ ที่มีข้อตกลงในการซื้อคืน” (DTPHREIT) มูลค่ากองทรัสต์รวมไม่เกิน 4,107 ล้านบาท พร้อมเข้าลงทุนกิจการโรงแรมศักยภาพสูงของMQDC (บริษัท แมกโนเลีย ดีเวล็อปเมนด้ ควอลิดี้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) เผยเป็นกองทรัสต์ REIT buy-back ซึ่งเป็นกองทรัสต์ประเภทที่มีข้อตกลงให้เจ้าของเดิมรับซื้อทรัพย์สินคืนในวันสิ้นสุดการลงทุน ระบุเสนอขายหน่วยลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ (Ultra-High Net Worth) ให้ผลตอบแทนอัตรา 7% ต่อปี

นางสาววนิดา สุขสุวรรณ
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีทีพี โกลบอล รีทส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (DTPRM)

นางสาววนิดา สุขสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีทีพี โกลบอล รีทส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (DTPRM) เปิดเผยว่า กองทรัสด์ DTPHREIT จะเข้าลงทุนในทรัพย์สินประเภทโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ที่มีศักยภาพของ MODC ดังนี้.1. ลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าสังหาริมทรัพย์โครงการ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ และ 2.เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ และงานระบบต่างๆใน โครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด (MRB) โดยมีมูลค่าขนาดกองทรัสต์ 3.ลงทุนในกรรมสิทธิ์โครงการโรงแรมยู เขาใหญ่ (U Khao Yai) รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 4,107 ล้านบาท

โดย กองทรัสต์ DTPHREIT เป็นกองทรัสต์ประเภท REIT buy-back ที่มีข้อตกลงในการขายอสังหาริมทรัพย์คืนให้แก่เจ้าของเดิมเมื่อสิ้นสุดปีที่ 3 นับตั้งแต่วันที่กองทรัสต์เช่าลงทุน (Obligation) นอกจากนี้ ในระหว่าง3ปี ที่กองทรัสต์เข้าลงทุนได้มีข้อตกลงในการให้เจ้าของทรัพย์สินเช่ากลับ เพื่อนำทรัพย์สินหรือหรือโรงแรมบริหารจัดการ และจ่ายค่าเช่าให้แก่กองทรัสต์ในอัตราที่แน่นอน โดยได้กำหนดอัตราค่าเช่าทั้ง 2 โครงการ ไว้ที่ประมาณ 217.49 ล้านบาทต่อ และมีการวางเงินประกันเท่ากับค่าเช่าที่ต้องชำระให้แก่กองทรัสต์เป็นจำนวน 3 เดือนซึ่งจะทำให้กองทรัสตํ DTPHREIT มีรายได้ที่มั่นคงแน่นอน

“ด้วยรายได้และผลตอบแทนที่แน่นอนสม่ำเสมอ จากการให้เจ้าของทรัพย์สินเช่ากลับโดยกำหนดค่าเช่าคงที่ทำให้กองทรัสตํ DTPHREIT สามารถจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ในอัตรา 7% ต่อปี โดยจ่ายในอัตราคงที่ดลอด 3 ปี นอกจากนี้เจ้าของยังตกลงที่จะซื้อทรัพย์สินคืนในราคาที่เท่ากับราคาที่กองทรัสต์เข้าลงทุนในวันที่สิ้นสุดปีที่ 3 นับจากกองทรัสต์เข้าลงทุน ทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินลงทุนเต็มจำนวนเมื่อสิ้นสุดปีที่ 3” นางสาววนิดากล่าว

ทั้งนี้กองทรัสต์คาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ (Ultra-High Net Worth) โดยมีบล.หยวนต้า(ประเทศไทย)และ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดจำหน่ายและมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย ทรัสตี

นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สิน (sponsor) กล่าวว่า ทรัพย์สินที่ขายให้กองทรัสต์ DTPHREIT ถือเป็นทรัพย์สินที่มีศักยภาพที่สูงมาก ทั้งทำเลที่ตั้งและคุณภาพ และเป็นทรัพย์สินที่มีความสำคัญกับกลุ่มบริษัท โดยวัดถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้มารองรับการลงทุนเพิ่ม และนำมาชำระหนี้บางส่วน และเป็นเงินทุนหมุนเวียน

“ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 คลี่คลายลงอย่างมาก หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการและเปิดประเทศให้คนเดินทางมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยนักท่องเที่ยวด่างชาติเดินทางเข้ามามากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ทิศทางธุรกิจโรงแรมกลับมาฟื้นตัวได้รวดเร็วเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลให้ความสามารถในการหารายได้และมูลค่าทรัพย์สินฟื้นตัวกลับมา ในทิศทางที่ขึ้นอย่างมาก ดังนั้น หลังครบกำหนด 3 ปี บริษัท มีความตั้งใจอย่างยิ่งและมีความพร้อม ในการ ซื้อทรัพย์สินคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินทรัพย์ที่ขายให้กอง DTPHREIT ขณะนี้มีอัตราการฟื้นตัวรวดเร็วมาก เนื่องจากในช่วงโควิดที่ผ่านมา ทาง MQDC คงอัตราจ้างงานพนักงานโรงแรมทุกแห่งโดยไม่มีการคัดพนักงานออกแม้แต่รายเดียว และมีการดูแลอสังหาริมทรัพย์ให้พร้อมเปิดบริการตลอดเวลาทำให้สามารถกลับมาดำเนินการตามปกติได้ทันทีที่มีการเปิดประเทศ”

“จากสถานการณ์ด่างๆที่คลี่คลาย และมีทิศทางดีขึ้นทำให้เรามั่นใจว่า การท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดิบโตได้อีกครั้ง และธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวธุรกิจบริการจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเมันต์ของบริษัทที่กองรีทส์ เข้าลงทนในครั้งนี้ ตั้งอยู่ในทำเลที่โดดเด่น ใกล้แหล่งท่องเที่ยวใจกลางเมือง บริหารโดยทีมงานชื่อดังระดับสากล จะได้รับประโยชน์โดยตรง ซึ่งจะเป็นปัจจัยเอื้อให้กลุ่มบริษัทสามารถบริหารจัดการ และดำเนินการตามช้อตกลงกับกองรีทส์ได้ เป็นอย่างดี ทั้งการ ชำาระ ค่าเช่าให้กองรีทส์ และการซื้อคืนทรัพย์สินได้ดามข้อตกลง” นายวิสิษฐ์ กล่าว

-โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ (Waldorf Astoria Bangkok) ซึ่งเป็นโรงแรมลักชั่วรี่ส์ ตั้งอยู่ในทำเลกลางกรุงเทพฯ มีห้องพักรวม 171 ห้อง บริหารงานโดย HLT Waldorf Astori ที่อยู่ภายใต้ HILTON worldwide อัตราเข้าพักช่วงก่อนโควิดเฉลี่ยอยู่ที่ 55% หลังจากโรงแรมเงเปิดด้วได้ไม่นาน ในช่วงโควิดได้รับผลกระทบค่อนข้างสูงเช่นเดียวกับโรงแรมในเมืองหลวงทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีแรกของปี 2565 อัตราเข้าพักปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วกลับมาอยู่ที่ 32%

-เชอร์วิส เรสซิเดนซ์ แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด (MRB) ห้องพักลักชั่วรี่ส์รวม 99 ห้อง ตั้งอยู่ในทำเลราชประสงค์กลางกรุงเทพฯ ภายในบริเวณเดียวกับโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ บริหารงานโดย คอมพาส ฮอสพิทอลิตี้ โครงการ MRB ได้รับผลกระทบจากโควิดพอสมควรหลังจากที่ผู้เข้าพัก ซึ่งเป็นชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ไม่สามารถเดินทางข้ามประเทศ อย่างไรก็ตาม 6 เดือนแรกของปีนี้ มียอด Occupancy Rate ฟื้นตัวขึ้นไปอยู่ที่ 87% ส่วนใหญ่เป็นการเช่าระยะยาวจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้บริหารระดับสูงทั้งชาวไทยและต่างชาติ (Expat) ของบริษัทขนาดใหญ่รวมถึงข้าราชการระดับสูงและนักการฑูต

-โรงแรมยู เขาใหญ่ (U Khao Yai) บริหารงานโดย Absolute Hotel Service ที่มีประสบการณ์และความสามารถบริหารโรงแรมที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล มีบริการห้องพัก และห้องสวีท ระดับไฮเอนด์ รวม 63 ห้อง ตั้งอยู่ใกล้ กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในทำเลโอบล้อมด้วยป่าเขาธรรมชาติ เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยผู้มีรายได้สูงมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (Occupancy Rate) อยู่ในระดับเกิน 80% มาโดยดลอด แมในช่วงวิกฤดิโควิด-19 ก็ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย โดยอัดราการเข้าพักลดลงเหลือราว 64%ในครึ่งปีแรกของปี 2565 อัตราการเข่าพักเฉลี่ยขยับชื้นมาที่ 81% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

*เกี่ยวกับ MODC (บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น)

MQDC (บริษัทแมกโนเลีย ควอลิดี้ ดีเวล็อปเมันต์ คอร์ปอเรชั่น) องค์กรชั้นนำด้านอสังหาริมทรัพย์ผู้บุกเบิกนวัดกรรมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนของทุกชีวิต ที่มีความมุ่งมั่นในการคิดคันและพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด Pioneering in Sustainnovation for AII Well-Being’ เพื่อสร้างความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกชีวิต

ทั้งนี้ MQDC ได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ธีมโปรเจกต์ และโครงการมิกซ์ยูส ภายใต้แบรนด์ “แมกโนเลียgnolias) “วิสซ์ดอม” (Whizdom) ติ แอสเพน ทรี (The Aspen Tree) มัลเบอร์รี่ โกรฟ (Mulbern สเทียส์” (The Forestias โดยการออกแบบและสร้างโครงการ จะต้องผ่านมาตรฐานของประกันโครงการถึง 30 ปี เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นคุณภาพของโครงการที่ดีเยี่ยม
ข้อมูลเพิ่มเติม www.mqdc.com

DTP (บริษัท ดีทีจีโอ พรอสเพอร์ส จำกัด) เป็นบริษัทด้านการลงทุนและระดมทุนทั่วโลกในอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพและก่อให้เกิดรายได้อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการลงทุนเชิงนวัตกรรม เพื่อการขยายฐานการลงทุนที่หลากหลาย DTP มีเป้าหมายในการเป็นบริษัทด้านการลงทุนระดับสากล โดยนอกเหนือจากโรงแรมที่กองรีทส์ เข้าลงทุนในครั้งนี้ DTP ยังเป็นเจ้าของโรงแรมในประเทศอังกฤษจำนวน 17 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ทั่วประเทศอังกฤษและมีห้องพัก ทั้งหมด รวมกันประมาณ 3,383 ห้อง และบริหารภายใต้ เครือโรงแรมสากลต่างๆได้แก่ Hilton IHG และ Marriott โดยมี MQDC (บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเมันด์ คอร์ปอเรชั่น) เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด

เกี่ยวกับ บริษัท ดีทีพี โกลบอล รีทส์ แมเนจเมนท์ จำกัด (DTPRM)

DTPRM (บริษัท ดีทีพี โกลบอล รีทส์ แมเนจเมันท์ จำกัด) ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการเป็นผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ดำเนินธุรกิจเป็นผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT Manager) เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 โดยมี DTP (บริษัท ดีที่จีโอ พรอสเพอร์รัส จำกัด) เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด

No comments